ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
บริษัท ไพวอท จำกัด
บริษัท ไพวอท จำกัด (ต่อไปในประกาศนี้เรียกว่า “บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่าน (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัท มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย บริษัท รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ บริษัท โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) ฉบับนี้จึงถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านในฐานะผู้ใช้บริการของบริษัทได้ทราบรายละเอียดของวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของท่านภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ในประกาศนี้ บริษัท ดำเนินการในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) ซึ่งหมายความว่า บริษัท เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. คำนิยาม
-
บริษัท หมายถึง บริษัท ไพวอท จำกัด
-
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งบริษัทมีการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อช่วยจัดการการทำรายการธุรกรรมของเจ้าของข้อมูลได้สมบูรณ์ และ เพื่อยืนยันสถานะของเจ้าของข้อมูลเกี่ยวกับการบริการลูกค้าและ โปรแกรมสิทธิพิเศษต่างๆ
-
ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลซึ่งไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลระบบ ข้อมูลที่ตั้ง คุกกี้
-
ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Line และ รูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้าสู่บริการใด ๆ ของบริษัท
-
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
-
แอพพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ โดยแอพพลิเคชั่น (Application) ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่าง ๆ
-
IP Address หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่นคอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่ง ๆ ที่ใช้อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร
2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
-
เพื่อการให้บริการ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว
-
เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
-
เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่าง ๆ หรือการติดต่อกับบริษัท
-
เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท
-
เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท
-
เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และ/หรือ บริการอื่น ๆ ของบริษัท อาทิ การให้คำแนะนำและ/หรือ ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ในการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด รวมถึง การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท
-
เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมทั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการหลักการขายแก่เจ้าของข้อมูล หรือ คู่ต้า เช่นการติดตาม ตอบข้อซักถามและ-หรือประเมินผลการให้บริการ การทำแบบสำรวจความพึงพอใจ การทำแบบสอบถาม การจัดการข้อร้องเรียนแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือการบริการ กรณีหากมีการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ บริษัทอาจมีการบันทึกการสนทนาไว้ เป็นต้น
-
เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท
-
เพื่อการจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลลูกค้า หรือ ประสานงาน ตอบข้อสักถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือการบริการ
-
เพื่อการจัดทำเอกสารสัญญาและ/หรือบันทึกข้อตกลง เอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาต่าง ๆ กับบริษัท
-
เพื่อการรับและส่งพัสดุและ/หรือการบริการ รับและส่งเอกสารหลักฐานต่าง ๆ
-
เพื่อการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับชำระเงินและ/หรือการรับชำระเงิน เช่น ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี และ/หรือเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว
-
เพื่อการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมในการ
-
ตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย
-
ตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่
-
บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
-
ปกป้องการดำเนินธุรกิจของบริษัท
-
ปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของบริษัท บุคคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น
-
เยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
-
-
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกำหนด
3. ข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
ประเภทข้อมูล
-
วัตถุประสงค์ในการประมวลผล
-
ข้อมูลส่วนบุคคล
-
ชื่อ นามสกุล
-
ตำแหน่ง
-
ที่อยุ่
-
เบอร์โทรศัพท์
-
อีเมล์, Line
-
เพศ
-
ประวัติการทำงาน
-
ประวัติการศึกษา
-
หมายเลขหนังสือเดินทาง
เมื่อท่านได้ทำการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ท่านอาจจำเป็นต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบริษัท เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลเพื่อการตลาดของบริษัท เช่น
-
เพื่อติดต่อและเสนอบริการของบริษัทหรือข้อเสนออื่นๆ เกี่ยวกับการให้บริการของทางบริษัท ซึ่งท่านอาจเคยแสดงความสนใจไว้กับบริษัท
-
เพื่อแจ้งท่านเกี่ยวกับข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ และจดหมายข่าว
-
เพื่อใช้ในการสมัครงาน ซึ่งมีความสนใจทีจะร่วมงานกับทางบริษัท
4. สถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
-
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น หรือ ความสำคัญของแต่ละหน่วยงานของบริษัท โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะ
-
จัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย
-
ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้
-
ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัท ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม
-
นอกจากนี้ บริษัท ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากบริษัท มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่บริษัทกำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล
5. ระยะเวลาจัดเก็บ
บริษัท รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาดังต่อไปนี้
-
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับทางบัญชี เก็บรักษาไว้ 10 ปี นับจากวันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับการให้บริการ
-
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล เก็บรักษาไว้ 5 ปี นับจากวันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับทางบริษัท
-
สำหรับข้อมูลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เก็บรักษาไว้ 30 – 90 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคล
-
เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัท จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของท่า หรือในกรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิหรือมีข้อพิพาทหรือคดีความเกี่ยวกับการใช้บริการ บริษัท ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
-
สิทธิของท่าน เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัท กำหนดขึ้น
สิทธิขอถอนความยินยอม
-
หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
-
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของผู้ให้ข้อมูล
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
-
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัท ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
สิทธิขอคัดค้าน
-
ท่านมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้าน บริษัท จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัท สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
-
ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัท หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล
-
ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัท อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัท หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัท ระงับการใช้แทน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
-
ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิร้องเรียน
-
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การใช้สิทธิ
-
การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิและยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัท อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัท ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัท จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ
7. การติดต่อสอบถาม
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ประกาศคุ้มตรองข้อมูลความเป็นส่วนตัว ท่านสามารถติดต่อมายัง
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)
-
ชื่อ นายสหภาพ สีแก้วสิ่ว
-
บริษัท ไพวอท จำกัด
-
ที่อยู่: 1000/67-74 อาคารลิเบอร์ตี้พลาซ่าชั้นที่ 1-3 ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 เลขผู้เสียภาษี 0105551016314
-
ช่องทางการติดต่อ (Call Center): 02-391-3344 ต่อ 111
-
อีเมล: sahaphap.se@pivot.co.th
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
-
ชื่อ นายชุมพล แก้วมาลัยรัตน์
-
บริษัท ไพวอท จำกัด
-
ที่อยู่: 1000/67-74 อาคารลิเบอร์ตี้พลาซ่าชั้นที่ 1-3 ถนนสุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 เลขผู้เสียภาษี 0105551016314
-
ช่องทางการติดต่อ (Call Center): 02-391-3344 ต่อ 111
-
อีเมล: pdpa@pivot.co.th
ประกาศข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โปรดอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อย่างละเอียด การที่ท่านได้การยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ แอพพลิเคชั่น ถือว่าท่านตกลงยอมรับข้อกำหนดที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้แล้วทุกประการ หากท่านไม่สามารถยอมรับข้อกำหนดประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ ขอให้ท่านปฏิเสธการใช้งานโดยกดปุ่มไม่ยินยอม
บริษัท ไพวอท จำกัด
(สำนักงานใหญ่)
1000/67-74 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้น 1-3 ซอย สุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) แขวงคลองตันเหนือเขต วัฒนา กทม. 10110